การวิจัย เรื่อง การพัฒนาภูมิปัญญาอาหารของกลุ่มชาติพันธุ์ไทยรามัญ บนพื้นฐานความดั้งเดิม มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาสภาพการณ์และลักษณะภูมิปัญญาอาหารของกลุ่มชาติพันธุ์ ไทยรามัญ 2) พัฒนาตำรับอาหารของกลุ่มชาติพันธุ์ไทยรามัญบนพื้นฐานความดั้งเดิม 3) วิเคราะห์คุณค่าทางโภชนาการของอาหารกลุ่มชาติพันธุ์ไทยรามัญ และ 4) พัฒนาภูมิปัญญาอาหารของ กลุ่มชาติพันธุ์ไทยรามัญ การวิจัยนี้เป็นการวิจัยและพัฒนา (Research and Development: R&D) โดยวิธีวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) ใช้วิธีการสัมภาษณ์เชิงลึก สนทนากลุ่มและทดสอบทางประสาทสัมผัส ผู้ให้ข้อมูล คือ ผู้รู้ด้านอาหารที่มีเชื้อสายไทยรามัญในอำเภอบ้านโป่ง อำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี และอำเภอท่ามะกา จังหวัดกาญจนบุรี และวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research) คือ ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียและนักท่องเที่ยว นำมาวิเคราะห์ข้อมูลด้วย ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการวิจัย พบว่า 1) สภาพการณ์ทั่วไปของกลุ่มชาติพันธุ์ไทยรามัญแสดงให้เห็นถึง การเปลี่ยนแปลงและการปรับตัวของชุมชนนี้ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน โดยสามารถแบ่งออกได้เป็นประเด็นหลัก ๆ คือ การอพยพของชาวรามัญ อัตลักษณ์ทางวัฒนธรรม เมืองรามัญ 7 เมือง การย้ายถิ่นฐาน และวิถีชีวิตความเป็นอยู่ ลักษณะภูมิปัญญาอาหารของกลุ่มชาติพันธุ์ไทยรามัญ จัดประเภทตามลักษณะอาหาร ประกอบด้วย วัตถุดิบที่ใช้ในการทำอาหาร วิธีการปรุงอาหาร วิธีการกินอาหาร ความเชื่อด้านอาหาร และการถ่ายทอดภูมิปัญญาอาหาร ผลวิเคราะห์การรับรู้ภูมิปัญญาอาหาร พบว่า ส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวรับรู้อาหารที่เป็นลักษณะเฉพาะของชาวไทยรามัญ ในระดับน้อย 2) ผลการพัฒนาตำรับมาตรฐานอาหาร ประกอบด้วย อาหารประเภทแกงไม่ใส่กะทิ 3 ตำรับ ได้แก่ แกงมะตาด แกงกล้วยดิบใบมะขามอ่อน และแกงเลียงใบกะเพราปลาย่าง ประเภทแกงใส่กะทิ ได้แก่ แกงถั่วเขียวใบมะรุม ประเภทเครื่องจิ้ม ได้แก่ น้าปลายำ และอาหารหวาน ได้แก่ ขนมด้วงมอญ ผลการประเมินตำรับมาตรฐานอาหาร พบว่า ค่าคะแนนความชอบทุกด้านอยู่ในเกณฑ์ชอบมาก 3) การวิเคราะห์คุณค่าทางโภชนาการอาหาร พบว่า ด้านพลังงานและสารอาหารหลักในอาหารกลุ่มนี้ให้พลังงาน อยู่ระหว่าง 48.84 – 195.39 กิโลแคลอรี่ อาหารเกือบทุกประเภทมีปริมาณโซเดียมสูง โดยเฉพาะแกงกล้วยดิบใส่ใบมะขามอ่อนสูงที่สุด แคลเซียมมีปริมาณสูงที่สุด คือ แกงถั่วเขียวใบมะรุม ธาตุเหล็กมีปริมาณสูง คือ แกงกล้วยดิบใส่ใบมะขามอ่อน ส่วนแกงถั่วเขียวใบมะรุมที่มีปริมาณวิตามินเอสูงสุด ผลการปรับลดปริมาณโซเดียม พบว่า ตำรับอาหารทั้ง 4 ชนิดมีปริมาณโซเดียม ลดลงร้อยละ 20 – 37.9 4) ผลการพัฒนาภูมิปัญญาอาหารของกลุ่มชาติพันธุ์ไทยรามัญ นำมาจัดเป็นสำรับอาหารไทยรามัญตามฤดูกาล ได้ 3 สำรับ ประกอบด้วย สำรับอาหารฤดูร้อน “อะบ่ะ อะเคินกะตาว” สำรับอาหารฤดูฝน “อะบ่ะ อะเคินปรั่ว” และสำรับอาหารฤดูหนาว “อะบ่ะ อะเคินเบ่าะ”