จำนวนวิทยานิพนธ์ ( 16 )
รูปแบบสมรรถนะครูคหกรรม กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพ สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
การจัดการศึกษาคหกรรมศาสตร์ ช่วยให้ผู้เรียนเกิดกระบวนการสร้างความรู้จากประสบการณ์ด้านวิชาการและวิชาชีพ ครูคหกรรมจึงควรมีคุณลักษณะที่สามารถปฏิบัติการสอนได้อย่างมีประสิทธิภาพตามแนวทางพัฒนาครูของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน งานวิจัยนี้ เป็นงานวิจัยและพัฒนา มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาสมรรถนะของครูคหกรรม กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพ สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน 2) สร้างรูปแบบและคู่มือการใช้รูปแบบสมรรถนะครูคหกรรม กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพ สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และ 3) ทดลองใช้รูปแบบและคู่มือการใช้รูปแบบสมรรถนะครูคหกรรม กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพ สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานประชากร กลุ่มตัวอย่าง และผู้ให้ข้อมูล ได้แก่ ครูคหกรรมของโรงเรียนในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษากรุงเทพมหานคร 177 คน ผู้ทรงคุณวุฒิในการสัมภาษณ์เชิงลึก 15 คน ผู้ทรงคุณวุฒิในการประชุมสนทนากลุ่ม 15 คน และกลุ่มตัวอย่างในการทดลองใช้รูปแบบและคู่มือการใช้รูปแบบสมรรถนะครูคหกรรม 30 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยได้แก่ แบบประเมินสมรรถนะที่พึงประสงค์และสมรรถนะปัจจุบันของครูคหกรรม แบบสัมภาษณ์เชิงลึกแบบกึ่งโครงสร้าง แบบบันทึกการประชุมสนทนากลุ่ม แบบประเมินความเหมาะสมของรูปแบบและคู่มือการใช้รูปแบบสมรรถนะครูคหกรรม แบบทดสอบหลังการอบรม แบบประเมินทักษะ แบบประเมินการพัฒนาตนเองก่อน -หลังการอบรม และแบประเมินความพึงพอใจต่อการอบรม รวบรวมข้อมูลโดยการสอบถามสัมภาษณ์เชิงลึก ประชุมสนทนากลุ่ม และกิจกรรมทดลองใช้รูปแบบและคู่มือการใช้รูปแบบสมรรถนะครูคหกรรม วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การวิเคราะห์ความต้องการจำเป็น (FNI more) การวิเคราะห์เนื้อพา และการพิมคราะห์ One Sample t ผลการวิจัยพบว่า 1) สมรรถนะของครูคหกรรมมี 2 ด้าน คือ สมรรถนะหลัก 11 สมรรถนะ โดยการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและสร้างเครือข่ายด้านคหกรรมศาสตร์ มีค่าเฉลี่ยสูงสุด (PNI Modified = 0.402) สมรรถนะประจำสายงานมี 12 สมรรถนะ และการใช้และพัฒนาสื่อนวัตกรรมเทคโนโลยีเพื่อการจัดการเรียนรู้ด้านคหกรรมศาสตร์ มีค่าเฉลี่ยสูงสุด (PNI Modned = = 0.348) แนวทางการพัฒนาสมรรถนะครูคหกรรมมีความสำคัญและส่งผลต่อประสิทธิภาพในการปฏิบัติงาน แบ่งได้ 3 ต้าน ได้แก่ ความรู้ ทักษะ คุณลักษณะ รูปแบบการพัฒนา ควรใช้วิธีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้และการศึกษาดูงานโดยดำเนินการในช่วงปิดภาคเรียน และประเมินผลด้วยวิธีการนิเทศ กำกับ ติดตาม การประเมินตนเองร่วมกับการประเมินโดยผู้เกี่ยวข้อง 2) รูปแบบสมรรถนะครูคหกรรม มี 7 ด้าน ประกอบเป็นคำว่า TEACHER ER ให้ความหมายได้ ดังนี้(Theory) หรือแนวคิด ทฤษฎีที่ใช้ E E (End Goal) หรือวัตถุประสงค์ เพื่อพัฒนาสมรรถนะครูคหกรรม A (Assets) หรือปัจจัยสนับสุนสุน C (Construct) หรือกระบวนการพัฒนา H (How To) หรือวิธีการที่ใช้ในการพัฒนา E (Effect) หรือผลที่ได้จากการพัฒนาสมรรถนะครูคหกรรม และ R (Refne) หรือการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง คู่มือการใช้รูปแบบสมรรถนะครูคหกรรมแบ่งเป็น 4 บท ได้แก่ บทที่ 1 บทนำ บทที่ 2 รูปแบบการพัฒนาสมรรถนะครูคหกรรม บทที่ 3 หลักสูตรฝึกอบรมสมรรถนะครูคหกรรม บทที่ 4 บทสรุป หลักสูตรฝึกอบรมจัดทำขึ้นโดยเลือกหัวข้อลำดับความต้องการจำเป็นสูงสุดจากผลการสัมภาษณ์ของสมรรถนะหลักเรื่อง การสร้างองค์ความรู้และนวัตกรรมในการพัฒนาองค์กรและวิชาชีพด้านคกรรมศาสตร์ และสมรรถนะประจำสายงานเรื่อง ความรู้ความสามารถในการออกแบบการเรียนรู้ 3) ผลการทดลองใช้รูปแบบและคู่มือการใช้รูปแบบสมรรถนะครูคหกรรม พบว่า การทดสอบความรู้หลังการอบรมสูงกว่าเกณฑ์ร้อยละ 70 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 โดยมีคะแนนเฉลี่ย 17.23 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 86.13 ผู้เข้ารับการอบรมร้อยละ 100 มีทักษะสูงกว่ามาตรฐานในทุกประเด็นการประเมิน ครูคหกรรมประเมินการพัฒนาตนเองก่อนการอบรมในระดับปานกลาง ในขณะการพัฒนาตนเองหลังการอบรมอยู่ในระดับมากที่สุด และความพึงพอใจของครูคหกรรมต่อการอบรมพบว่า มีความพึงพอใจในระดับมากที่สุด งานวิจัยนี้มีข้อเสนอแนะให้ครูคหกรรมนำสื่อนวัตกรรม เทคโนโลยี มาใช้ในการจัดการเรียนรู้ สร้างหลักสูตรเพื่อพัฒนาครูในกลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพ นำหลักสูตรจากผลการวิจัยไปประยุกต์ใช้ และอบรมทักษะเฉพาะด้านคหกรรมศาสตร์