จำนวนงานวิจัย ( 3 )

ผลกระทบจากอุณหภูมิและผลได้เชิงมวลต่อคุณสมบัติทางเชื้อเพลิงของฟางข้าวที่ผ่านกระบวนการทอร์รีแฟคชัน
งานวิจัยฉบับนี้ได้ศึกษาผลกระทบของเวลาในการทอร์รีแฟคชัน อุณหภูมิในการทอร์รี แฟคชัน และการสูญเสียน้ำหนักของฟางข้าว ต่อคุณสมบัติของฟางข้าวที่ผ่านกระบวนการทอร์รีแฟค ชัน โดยดำเนินการทอร์รีแฟคชันที่อุณหภูมิ 220 °C, 250 °C และ 280 °C โดยตั้งเป้าหมายการสูญเสีย น้ำหนักที่ 10%, 20% และ 30% ของน้ำหนักเริ่มต้น ผลการศึกษาชี้ให้เห็นว่า การเพิ่มอุณหภูมิในการ ทอร์รีแฟคชันช่วยลดเวลาที่ต้องใช้ในการบรรลุการสูญเสียน้ำหนักของฟางข้าวได้อย่างมีนัยสำคัญ การ วิเคราะห์ทางกายภาพเผยให้พบว่าปริมาณคาร์บอนคงที่ของฟางข้าวเพิ่มขึ้นหลังจากกระบวนการทอร์ รีแฟคชัน โดยมีค่าระหว่าง 22.45% ถึง 28.48% ขึ้นอยู่กับอุณหภูมิและการสูญเสียน้ำหนักของฟาง ข้าว ในทางตรงกันข้าม ปริมาณสารระเหยและความชื้นลดลง ซึ่งสะท้อนถึงคุณสมบัติพลังงานที่ดีขึ้น ของชีวมวลที่ผ่านการทอร์รีแฟคชัน ปริมาณเถ้าสูงขึ้นหลังจากการทอร์รีแฟคชัน แสดงให้เห็นถึงสาร อนินทรีย์ที่เหลืออยู่มากขึ้น การวิเคราะห์องค์ประกอบทางเคมีแสดงให้เห็นว่าปริมาณไนโตรเจนคงที่ ขณะที่ปริมาณคาร์บอนเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเมื่อปริมาณไฮโดรเจนและออกซิเจนลดลงตามความ รุนแรงของกระบวนการทอร์รีแฟคชัน ค่าอุณหภูมิความร้อนสูงสุด (HHV) ของฟางข้าวเพิ่มขึ้นจาก 16.55 MJ/kg ก่อนการทอร์รีแฟคชัน เป็นค่าในช่วง 17.59 ถึง 18.88 MJ/kg ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความ มีประสิทธิภาพของกระบวนการในการเพิ่มพลังงานของเชื้อเพลิง โดยรวมแล้ว ผลการศึกษาชี้ให้เห็น ถึงความสัมพันธ์ระหว่างเงื่อนไขการทอร์รีแฟคชันและคุณสมบัติของชีวมวล โดยการควบคุมอุณหภูมิ และการสูญเสียน้ำหนักของชีวมวลอย่างเหมาะสมสามารถปรับปรุงคุณภาพเชื้อเพลิงของฟางข้าวได้ อย่างมีนัยสำคัญ

การศึกษาการอบแห้งส้มจี๊ดด้วยเครื่องอบแห้งแบบฟลูอิดไดซ์เบด
ปัจจุบันส้มจี๊ดเป็นที่ต้องการของตลาดสูงมาก เนื่องจากมีข้อมูลผลการวิจัยกล่าวว่าส้มจี๊ดสามารถช่วยต้านหวัด แก้ไอ ขับเสมหะ แก้เจ็บคอ แก้โรคภูมิแพ้ทางลำคอ แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ และช่วยในการย่อยอาหาร วิตามินเอ มีวิตามินซีสูง สามารถช่วยบำรุงผิวพรรณ เปลือกและกากส้มอุดมไปด้วยเส้นใยอาหาร โดยมีปริมาณใยอาหารรวมร้อยละ 84.25 แบ่งเป็นใยอาหารที่ไม่ละลายน้ำร้อยละ 48.49 และที่ละลายน้ำร้อยละ 35.76 ในช่วงเวลาที่มะนาวมีราคาแพง สิ่งที่ร้านอาหารนำมาใช้ทดแทนความเปรี้ยวของมะนาวนอกจากมะขามแล้วก็เป็น ส้มจี๊ด ซึ่งมีความเปรี้ยว ความหอม ในการปรุงรสของอาหารไม่แพ้มะนาว การปลูกก็ง่าย การดูแลรักษาก็ง่าย ปัจจุบันการเพาะปลูกส้มจี๊ดที่จังหวัดจันทบุรีและจังหวัดระยองมีพื้นที่ปลูกส้มจี๊ดประมาณ 50 ถึง 100 ไร่ ได้ผลผลิตต่อปีละประมาณ 50 ถึง 70 ตันต่อปี เกษตรกรสามารถขายส้มจี๊ดได้ในกิโลกรัมละ 55 ถึง 70 บาท ผลผลิตส้มจี๊ดมีปริมาณมากเกษตรกรจึงต้องนำส้มจี๊ดมาเป็นวัตถุดิบในการแปรรูป และการแปรรูปส้มจี๊ดสามารถเก็บไว้บริโภคได้นาน การแปรรูปส้มจี๊ดเป็นผลิตภัณฑ์มี 7 รูปแบบ ได้แก่ น้ำส้มจี๊ดพร้อมดื่ม แยมส้มจี๊ด มาร์มาเลดส้มจี๊ด เยลลี่ส้มจี๊ด ส้มจี๊ดแช่อิ่มอบแห้ง ไอศกรีมเชอร์เบทส้มจี๊ด และเค้กส้มจี๊ด ดังนั้นโครงงานนี้จึงสนใจที่จะศึกษาการน้ำส้มจี๊ดมาอบแห้งโดยใช้เครื่องอบแห้งแบบฟลูอิไดซ์เบด ซึ่งเครื่องอบแห้งแบบฟลูอิดไดซ์เบดที่จะทำการศึกษาจะมีอุปกรณ์ประกอบด้วย ชุดพัดลมโบลเวอร์ เป่าลมผ่านฮีตเตอร์ทำความร้อน เกิดลมร้อนไปยังถังอบ และมีตะแกรงสแตนเลสที่ใส่ส้มจี๊ดขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 30 cm สูง 65 cm ในการทดลองนี้ได้กำหนดน้ำหนักส้มจี๊ดในการอบแห้ง 1,000 g ทดลองส้มจี๊ดที่อุณหภูมิ 55 °C, 60 °C และ 65 °C จะบันทึกข้อมูลการทดลองทุก 15 นาที เพื่อหาความชื้นที่ลดลงต่อช่วงเวลา ผลการทดลองพบว่าการอบแห้งส้มจี๊ดที่อุณหภูมิ 55 °C ใช้เวลาในการอบแห้ง 225 นาที นำความร้อนกลับมาใช้ใหม่ 50 % เป็นอุณหภูมิอบแห้งส้มจี๊ดที่ดีที่สุด

การศึกษาการอบแห้งฟ้าทะลายโจรด้วยเครื่องอบแห้งแบบฟลูอิดไดซ์เบด
ปัจจุบันฟ้าทะลายโจรเป็นที่ต้องการของตลาดสูงมาก เนื่องจากมีรายงานผลการวิจัยพบว่า ฟ้าทะลายโจรช่วยรักษาอาการไข้ที่เป็นอาการหนึ่งของผู้ที่ติดเชื้อโควิด-19 ได้ ฟ้าทะลายโจรจัดเป็นสมุนไพรท้องถิ่นในประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ถูกใช้กันอย่างแพร่หลายในหลายประเทศ ทั่วทวีปเอเชีย โดยนิยมนําส่วนของใบและลำต้นใต้ดิน มาทำเป็นยารักษาโรค โดยเฉพาะโรคไข้หวัดใหญ่ สำหรับฟ้าทะลายโจรที่นำมาทำเป็นยารักษาโรคจะต้องผ่านวิธีทำให้แห้ง ในการทำให้แห้งปกติ ใช้วิธีการตากแดดตามธรรมชาติ ซึ่งมีข้อจำกัดเวลาในการผลิต จะทำให้การผลิตไม่ต่อเนื่อง ดังนั้นโครงงานนี้จึงสนใจที่จะศึกษาการนำฟ้าทะลายโจรมาอบแห้งโดยใช้เครื่องอบแห้งแบบฟลูอิดไดซ์เบด ซึ่งเครื่องอบแห้งชนิดนี้สามารถลดความชื้นได้อย่างรวดเร็ว โดยเครื่องอบแห้งแบบฟลูอิดไดซ์เบด ที่จะทำการศึกษาจะมีอุปกรณ์ประกอบด้วย ชุดพัดลมโบลเวอร์ 2 HP ที่ความเร็วรอบสูงสุด 2,950 rpm เป่าลมผ่านฮีตเตอร์ทำความร้อนขนาด 6,000 W เกิดลมร้อนไปยังถังอบขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 33 cm สูง 150 cm ในการทดลองนี้ได้กำหนดน้ำหนักฟ้าทะลายโจรในการอบครั้งละ 500 g, 1,000 g, และ 2,000 g ทดลองฟ้าทะลายโจรที่น้ำหนักละ 2 ครั้ง ที่อุณหภูมิ 40 °C และ 50 °C ความเร็วลมร้อน ที่ผ่านถังอบ 1.5 m/s โดยจะบันทึกข้อมูลการทดลองทุก 15 min เพื่อหาความชื้นที่ลดลงต่อช่วงเวลา ผลการทดลองพบว่าที่น้ำหนักฟ้าทะลายโจร 2,000 g อุณหภูมิ 40 °C ใช้เวลาในการอบแห้ง 105 นาทีและอุณหภูมิ 50 °C ใช้เวลาในการอบแห้ง 60 นาที ที่อุณหภูมิเท่ากันเมื่อเพิ่มน้ำหนักฟ้าทะลายโจร ทำให้ใช้ระยะเวลาในการอบแห้งเพิ่มขึ้น เมื่อเพิ่มอุณหภูมิการอบแห้งจาก 40 °C เป็น 50 °C ทำให้ระยะเวลาในการอบแห้งลดลงและพบว่าการสิ้นเปลืองพลังงานจำเพาะมีค่าลดลงเนื่องจากใช้ระยะเวลาในการอบแห้งที่ 50 °C น้อยกว่า 40 °C