จำนวนงานวิจัย ( 66 )

แนวทางการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุในอำเภอหนองแค จังหวัดสระบุรีโดยใช้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
แนวทางการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุในอำเภอหนองแค จังหวัดสระบุรีโดยใช้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง

งานวิจัยนี้มีเพื่อศึกษาสภาพความเป็นอยู่ของผู้สูงอายุในอำเภอหนองแค จังหวัดสระบุรี เพื่อศึกษาการมีส่วนร่วมของผู้สูงอายุที่นำแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในการดำเนินชีวิตในอำเภอหนองแค จังหวัดสระบุรี และเพื่อนำเสนอแนวทางการพัฒนารูปแบบการนำแนวคิดปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในการดำเนินชีวิตของผู้สูงอายุในอำเภอหนองแค จังหวัดสระบุรี โดยดำเนินการเก็บข้อมูลระหว่างเดือนตุลาคม พ.ศ.2564 ถึงเดือนกันยายน พ.ศ. 2565 เป็นการวิจัยเชิงสำรวจที่ใช้เครื่องมือแบบสอบถาม ซึ่งประกอบด้วย 4 ส่วน คือ 1) ข้อมูลทั่วไปของผู้ตอบแบบสอบถาม ประกอบด้วย เพศ อายุ ระดับการศึกษา อาชีพหลัก (อาชีพที่มั่นคงและมีรายได้มากที่สุด) และรายได้ต่อเดือน 2) การส่งเสริมคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุในอำเภอหนองแค จังหวัดสระบุรีโดยใช้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง 3) การดำเนินชีวิตโดยใช้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของผู้สูงอายุในอำเภอหนองแค จังหวัดสระบุรี และ 4) ข้อเสนอแนะของผู้ตอบแบบสอบถามโดยมีกลุ่มตัวอย่างในการวิจัย คือ ผู้สูงอายุในอำเภอหนองแค จังหวัดสระบุรี จำนวน 382 คน การวิเคราะห์ข้อมูลใช้สถิติพรรณนา สำหรับข้อมูลลักษณะทางประชากรศาสตร์ และสถิติเชิงอนุมาน สำหรับการทดสอบสมมติฐาน ผลการศึกษาพบว่า ข้อมูลทั่วไปของผู้ตอบแบบสอบถาม ส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง มีอายุ 41 – 50 ปี ระดับการศึกษาปริญญาตรีหรือสูงกว่า ส่วนใหญ่มีอาชีพรับจ้าง และมีรายได้ต่อเดือนมากกว่า 10,001 บาท ระดับการส่งเสริมคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุในอำเภอหนองแค จังหวัดสระบุรี โดยใช้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก ระดับการปฏิบัติการดำรงชีวิตโดยใช้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของผู้สูงอายุในอำเภอหนองแค จังหวัดสระบุรี โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก และมีการนำแนวหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในการดำเนินชีวิตของผู้สูงอายุ ประกอบด้วย ด้านความพอประมาณ ด้านการมีเหตุผล ด้านการมีภูมิคุ้มกันที่ดี ด้านเงื่อนไขความรู้ และเงื่อนไขด้านคุณธรรม จำแนกตามข้อมูลด้านประชากรศาสตร์ ได้ดังนี้ 1) กลุ่มตัวอย่างที่มีเพศต่างกัน มีการนำแนวคิดหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในการดำเนินชีวิตของผู้สูงอายุ แตกต่างกัน ในด้านความมีเหตุผล ด้านการมีภูมิคุ้มกันที่ดี และด้านความรู้ 2) กลุ่มตัวอย่างที่มีอายุต่างกัน มีการนำแนวคิดหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในการดำเนินชีวิตของผู้สูงอายุ แตกต่างกัน ประกอบด้วย ด้านความพอประมาณ ด้านการมีเหตุผล ด้านการมีภูมิคุ้มกันที่ดี ด้านเงื่อนไขความรู้ และเงื่อนไขด้านคุณธรรม 3) กลุ่มตัวอย่างที่มีระดับการศึกษาต่างกัน มีการนำแนวคิดหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในการดำเนินชีวิตของผู้สูงอายุ แตกต่างกัน ในด้านการมีเหตุผล 4) กลุ่มตัวอย่างที่มีอาชีพหลักต่างกัน มีการนำแนวคิดหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในการดำเนินชีวิตของผู้สูงอายุ แตกต่างกัน ประกอบด้วย ด้านความพอประมาณ ด้านการมีเหตุผล ด้านการมีภูมิคุ้มกันที่ดี ด้านเงื่อนไขความรู้ และเงื่อนไขด้านคุณธรรม 5) กลุ่มตัวอย่างที่มีรายได้ต่อเดือนต่างกัน มีการนำแนวคิดหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในการดำเนินชีวิตของผู้สูงอายุ แตกต่างกัน ในด้านการมีภูมิคุ้มกันที่ดี

2565
ความสัมพันธ์ระหว่างความล้มเหลวทางการเงินกับอัตราส่วนทางการเงินของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
ความสัมพันธ์ระหว่างความล้มเหลวทางการเงินกับอัตราส่วนทางการเงินของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

การวิจัยเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างความล้มเหลวทางการเงินกับอัตราส่วนทางการเงินของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปัจจัยที่ส่งผลต่อความล้มเหลวทางการเงินของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กลุ่มตัวอย่างจำนวน 373 บริษัท ระหว่างปี พ.ศ.2559-2563 ตัวแปรที่ใช้ในการศึกษาประกอบด้วย ความล้มเหลวทางการเงิน (Z-Score) อัตราส่วนกำไรสุทธิ (Net Profit Margin) อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (Debt to Equity Ratio) อัตราการหมุนเวียนของสินทรัพย์รวม (Total Assets Turnover) โดยใช้วิธีการวิเคราะห์สมการถดถอยเชิงพหุคูณ (Multiple Regression Analysis) บริษัทส่วนใหญ่อยู่ในเกณฑ์ที่ไม่มีความเสี่ยงต่อความล้มเหลวทางการเงิน คิดเป็นร้อยละ 42.79 โดยผลการวิจัยพบว่า อัตรากำไรสุทธิ และอัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้นมีความสัมพันธ์เชิงลบกับความล้มเหลวทางการเงินอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ในขณะที่อัตราการหมุนเวียนของสินทรัพย์รวมมีความสัมพันธ์เชิงบวกกับความล้มเหลวทางการเงินแต่ไม่มีนัยสำคัญทางสถิติ ส่วนตัวแปรควบคุม ขนาดของกิจการมีความสัมพันธ์เชิงลบกับความล้มเหลวทางการเงินอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ แต่อายุของกิจการมีความสัมพันธ์เชิงลบกับความล้มเหลวทางการเงินแต่ไม่มีนัยสำคัญทางสถิติ

2565
กลยุทธ์การปรับตัวเพื่อความอยู่รอดของวิสาหกิจชุมชนในจังหวัดนนทบุรี
กลยุทธ์การปรับตัวเพื่อความอยู่รอดของวิสาหกิจชุมชนในจังหวัดนนทบุรี

ภายใต้สถานการณ์การเปลี่ยนแปลงจากการเกิดวิกฤติที่มีผลกระทบกับคนทั่วโลก อย่างการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ซึ่งในกลุ่มวิสาหกิจชุมชนก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน ดังนั้นจำเป็นต้องมีกลยุทธ์การปรับตัวที่ดี วิสาหกิจชุมชนนั้นจึงจะเป็นผู้อยู่รอด และอาจกลายเป็นผู้พยุงเศรษฐกิจในระดับมหภาคได้ จากเหตุดังกล่าว จึงสนใจทำการศึกษางานวิจัยเรื่อง “กลยุทธ์การปรับตัวเพื่อความอยู่รอดของวิสาหกิจชุมชน” เฉพาะในจังหวัดนนทบุรี โดยมีวัตถุประสงค์ของการวิจัยคือ เพื่อศึกษากลยุทธ์การปรับตัวของวิสาหกิจชุมชน และศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างกลยุทธ์การปรับตัวกับความอยู่รอดของวิสาหกิจชุมชน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลเป็นแบบสอบถาม โดยเก็บจากกลุ่มตัวอย่างจำนวน 308 คน การวิเคราะห์ข้อมูลเป็นการหาความสัมพันธ์ของตัวแปรโดยใช้ CFA และทดสอบข้อสมมุติฐานจากสมการโครงสร้าง ( Structural Equation Modeling : SEM ) ผลการวิจัยพบว่า กลยุทธ์การปรับตัวด้านการให้ความสำคัญกับลูกค้า กลยุทธ์การสร้างความแตกต่าง กลยุทธ์การประยุกต์ใช้เทคโนโลยี และกลยุทธ์ด้านต้นทุน มีค่า p-value น้อยกว่า .05 จึงสรุปว่า กลยุทธ์การปรับตัวทั้ง 4 ด้าน มีอิทธิพลเชิงบวกต่อความอยู่รอดของวิสาหกิจชุมชน จากผลวิจัยดังกล่าว กลุ่มวิสาหกิจชุมชนควรเล็งเห็นถึงความสำคัญต่อการปรับตัว กล่าวคือ เมื่อสภาพแวดล้อมเป็นอุปสรรคต่อการทำธุรกิจ ผู้ประกอบการจำเป็นต้องปรับกลยุทธ์ให้มีความสอดคล้องกับสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไปเพื่อความอยู่รอดและสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน ดังนั้น ควรสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าเพื่อให้เกิดความผูกพันในตัวสินค้าและบริการ สร้างความแตกต่างที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ ปรับใช้เทคโนโลยีตามยุคสมัยใหม่เพื่อให้เกิดความคล่องตัวในการดำเนินงาน และต้องบริหารด้านต้นทุนให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด

2565
ปัจจัยเชิงสาเหตุที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพระบบบัญชีออนไลน์แบบคลาวด์ของวิสาหกิจขนาดกลาง และขนาดย่อม (SMEs) ในประเทศไทย
ปัจจัยเชิงสาเหตุที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพระบบบัญชีออนไลน์แบบคลาวด์ของวิสาหกิจขนาดกลาง และขนาดย่อม (SMEs) ในประเทศไทย

ระบบคลาวด์คอมพิวติ้ง (Cloud Accounting) ถือเป็นเป็นระบบที่เกี่ยวข้องกับระบบสารสนเทศทางการบัญชีรูปแบบใหม่ โปรแกรมบัญชีบนคลาวด์เป็นผลมาจากการประมวลผลข้อมูลทางการบัญชีในรูปแบบดิจิดัลโดยเริ่มตั้งแต่จากระบบบัญชีรูปแบบเดิมไปยังโปรแกรมบัญชีบนคลาวด์ที่ทำให้การปฏิบัติงานด้านบัญชีมีความยึดหยุ่น และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น งานวิจัยทางด้านโปรแกรมบัญชีบนคลาวด์กลายเป็นประเด็นที่ได้รับความสนใจมากขึ้นในการพัฒนาประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่ม ธุรกิจวิสาหกิจขนาดกลาง ขนาดย่อม (SMEs) ในประเทศไทย ดังนั้นการศึกษาในครั้งนี้จึงมีวัตถุประสงค์เพื่อวิเคราะห์ปัจจัยเชิงสาเหตุของประสิทธิภาพระบบบัญชีออนไลน์แบบคลาวด์ของธุรกิจวิสาหกิจขนาดกลาง และขนาดย่อมในประเทศไทย. โดยใช้วิธีเก็บข้อมูลจากแบบสอบถามด้วยตนเองในกลุ่มตัวอย่างที่เป็นเจ้าของกิจการ ผู้บริหารจานวน 361 บริษัทในประเทศไทย จากผลการวิจัยนี้พบว่าการสนับสนุนผู้บริหารระดับสูงความสามารถขององค์กร คุณภาพการบริการ และคุณภาพของระบบ ส่งผลในเชิงบวกต่อการรับรู้ประโยชน์จากการใช้ และการรับรู้ความง่ายในการใช้งานของระบบบัญชีออนไลน์แบบคลาวด์ และการรับรู้ประโยชน์จากการใช้งาน และการรับรู้ความง่ายในการใช้งานส่งผลในเชิงบวกต่อความพึงพอใจจากการใช้ระบบบัญชีออนไลน์แบบคลาวด์ อีกทั้งความพึงพอใจจากการใช้ส่งผลในเชิงบวกต่อประสิทธิภาพจากการใช้ระบบบัญชีออนไลน์แบบ คลาวด์ในทางตรงกันข้ามยังพบว่าแรงกดดันจากสภาพแวดล้อมทางธุรกิจไม่มีส่งผลต่อการรับรู้ความง่ายในการใช้งาน และการรับรู้ประโยชน์ในการใช้งานระบบ และการรับรู้ความง่ายในการใช้งานส่งผลในเชิงลบต่อการรับรู้ประโยชน์ในการใช้งานระบบบัญชีออนไลน์แบบคลาวด์ซึ่งมีความขัดแย้งกับงานวิจัยในอดีตเป็นส่วนใหญ่

2565
การวิเคราะห์เส้นทางกลยุทธ์ด้านสิ่งแวดล้อมที่ส่งผลต่อการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อม
การวิเคราะห์เส้นทางกลยุทธ์ด้านสิ่งแวดล้อมที่ส่งผลต่อการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อม

การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อทดสอบกรอบแนวคิดที่อธิบายความสัมพันธ์ระหว่าง กลยุทธ์ด้านสิ่งแวดล้อม การบัญชีการจัดการสิ่งแวดล้อม ความสามารถเชิงพลวัต และผลการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อม โดยใช้แบบสอบถามในการเก็บรวบรวมข้อมูลจากบริษัทที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO 14001 ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยและไม่ได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย จำนวน 208 บริษัท ตัวแปรประกอบด้วยกลยุทธ์ด้านสิ่งแวดล้อม การบัญชีบริหารสิ่งแวดล้อม ความสามารถเชิงพลวัตขององค์กร และผลการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อม วิเคราะห์ข้อมูลโดยการวิเคราะห์เส้นทาง (Path analysis) โดยใช้โปรแกรม Amos ผลการวิจัยพบว่าโมเดลตามสมมติฐานการวิจัยสอดคล้องกับข้อมูลเชิงประจักษ์ โดย ตัวแปรที่ศึกษาในการทำวิจัยได้แก่ ตัวแปรกลยุทธ์ด้านสิ่งแวดล้อมมีอิทธิพลทางตรงต่อตัวแปรการบัญชีบริหารสิ่งแวดล้อม และความสามารถเชิงพลวัตขององค์กร ด้วยขนาดอิทธิพลเท่ากับ 0.567 และ 0.643 ตามลำดับ นอกจากนี้ตัวแปรกลยุทธ์ด้านสิ่งแวดล้อม ตัวแปรการบัญชีบริหารสิ่งแวดล้อมและตัวแปรความสามารถเชิงพลวัตขององค์กรมีอิทธิพลทางตรงต่อตัวแปรผลการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อม ด้วยขนาดอิทธิพลเท่ากับ 0.763, 0.328 และ 0.493 ตามลำดับ

2565